ร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นที่คุณห้ามพลาด!! | Guidable - Your Guide to a Sustainable, Wellbeing-centred Life in Japan

ร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นที่คุณห้ามพลาด!!

By Guidable Writers Mar 23, 2020

This post is also available in: อังกฤษ

 

จะมีอะไรดีไปกว่าเสียงซู่ๆ ที่ดังมาจากเตาถ่านที่กำลังย่างเนื้อร้อนๆละ? คุณเคยลองเนื้อย่างญี่ปุ่นมาก่อนหรือไม่? ในขณะที่คุณวางชิ้นเนื้อลงบนกระทะร้อน กลิ่นของเนื้อกระทบกับประสาทสัมผัสของคุณเพื่อตอกย้ำว่าคุณหิวมากๆ “ยากินิคุ” หรือปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น ถือเป็นอาหารที่คุณห้ามพลาดเมื่อมาเยือนญี่ปุ่น 

 

ต้นกำเนิดยากินิคุ

ยากินิคุมาจากคำว่า ยากิที่แปลว่าย่าง และนิคุที่แปลว่าเนื้อ ในสมัยก่อนยากินิคุนั้นเอาไว้ใช้เรียกอาหารบาร์บีคิวของชาวตะวันตก ในคู่มืออาหารตะวันตกของนักเขียนนามว่า คานากาคิ โรบุน กล่าวถึงคำว่า ยากินิคุ ซึ่งได้รับความนิยมตั้งแต่นั้นมา ต่อมาคำนี้ถูกนำไปเกี่ยวข้องกับบาร์บีคิวของประเทศเกาหลี เนื่องจากอิทธิพลจากชาวเกาหลีในช่วงสงคราม

 

เชื่อกันว่าร้านอาหารยากินิคุแห่งแรกมีต้นกำเนิดที่โอซาก้าและโตเกียวจากร้านอาหารเกาหลีในบริเวณนั้น ความแตกต่างระหว่างปิ้งย่างเกาหลีกับญี่ปุ่นคือวิธีเสิร์ฟเนื้อสัตว์ สำหรับปิ้งย่างเกาหลีเนื้อมักจะถูกย่างโดยพนักงานที่โต๊ะอาหาร ในขณะที่ปิ้งย่างแบบญี่ปุ่น (ยากินิคุ) ลูกค้าจะย่างเนื้อด้วยตัวเอง นอกจากนี้เมื่อพูดถึงปิ้งย่างเกาหลีแล้ว มักนึกถึงประเภทเฉพาะของเนื้อ ซึ่งคือหมูสามชั้น หรือที่รู้จักกันในชื่อ samgyeopsal ในทางตรงกันข้าม ยากินิคุจะถูกเสิร์ฟด้วยเนื้อหั่นบาง ๆ เพื่อจะได้ย่างง่าย

 

ยากินิคุคืออะไร?

ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่าร้อยปี ยากินิคุเป็นอาหารปิ้งย่างยอดนิยมเมื่อคุณอยากทานเนื้อ ยากินิคุประกอบด้วยเนื้อสัตว์และผักหั่นเป็นชิ้นๆ ย่างด้วยเตาถ่านเพื่อกลิ่นที่พิเศษ คุณอาจเคยได้ยินถึงเนื้อวากิวซึ่งเป็นเนื้อระดับไฮเอนด์ที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น และเป็นที่นิยมกันโดยทั่วไปสำหรับปิ้งย่าง เพราะลายของเนื้อและไขมันที่แทรกตัวไปตามเนื้อ นอกจากเนื้อวัวและเนื้อหมู เนื้อไก่ยังเป็นที่นิยมสำหรับยากินิคุ เมนูเด็ดอย่างหมูสามชั้น เบคอน และไส้กรอกล้วนเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน อาหารจานพิเศษจานหนึ่งที่ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบเรียกว่า “โฮรูมง” ซึ่งเป็นเครื่องในของวัว หมู หรือไก่ มันอาจประกอบด้วยตับ ไต ลำไส้เล็ก ปอด หรือหัวใจ อาจจะฟังดูน่ากลัว แต่คุณอาจขอเพิ่มเมื่อคุณได้ลิ้มลองรสชาติของโฮรูมง!

 

ก่อนที่จะเสิร์ฟเนื้อให้กับลูกค้า ร้านปิ้งย่างส่วนใหญ่จะหมักซอสสูตรพิเศษเพื่อเป็นเอกลักษณ์ของร้าน อย่างไรก็ตามส่วนผสมพื้นฐานคือซอสถั่วเหลือง น้ำมันงา และกระเทียมเพื่อเพิ่มรสชาติของเนื้อ ร้านอาหารอาจเพิ่มส่วนผสมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะเพื่อความโดดเด่น นอกจากเนื้อหมัก ร้านมักให้บริการเนื้อที่ไม่ได้หมักเพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มรสรสชาติดั้งเดิมของเนื้อ เนื้อสัตว์ที่ไม่ได้ถูกหมักมักกินกับน้ำจิ้มสูตรพิเศษ

 

สูตรน้ำจิ้มของแต่ละร้านจะแตกต่างกันไป บางร้านมีซอสถั่วเหลือง ยูซุ น้ำมะนาว หรือซอสเผ็ด ร้านอาหารยังมีเครื่องปรุงรสอื่นเช่นกระเทียมบด หัวหอมสับ และเมล็ดงา ยากินิคุยังกินพร้อมกับเครื่องเคียงเช่นกิมจิและผักดองเพื่อตัดเลี่ยนอีกด้วย 

 

ตอนนี้คุณคงคุ้นเคยกับยากินิคุแล้ว เราขอแนะนำร้านอาหารยากินิคุที่เราคัดสรรค์มาแล้วว่าถูกและอร่อย!

 

Sutamina Taro

ร้านยาคินิคุที่แรกที่เราอยากแนะนำให้คุณรู้จักคือ ร้านสุตามินาทาโร่ (Stamina Taro) ซึ่งมีสาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น และมีสาขาที่มีชื่อเสียงในหมู่ชาวต่างชาติที่สถานีอุเอโนะ (Ueno) ที่สุตามินาทาโร่ คุณสามารถเพลิดเพลินกับเนื้อหลากหลายประเภท เช่นเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ และแม้กระทั่งแฮมเบิร์ก ไส้กรอก และปลาหมึก นอกจากเนื้อย่างที่คุณสามารถเพลิดเพลินได้แล้ว ยังมีซูชิ แกงกะหรี่ ราเมน อาหารทอดหลากหลาย และเมนูอื่นๆ อีกมากกว่า 130 รายการ

 

ที่สุตามินาทาโร่ คุณไม่แค่ทานอาหาร แต่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการทำอาหารและรังสรรค์เมนูแปลกใหม่ของคุณเอง ด้วยเหตุผลนี้ ร้านนี้จึงเหมาะกับครอบครัวที่มีลูกน้อยเพื่อสนุกกับมื้ออาหาร นอกจากการย่างเนื้อ คุณสามารถทำราเมนและชามอุด้งของคุณเอง หรือทำข้าวแกงกะหรี่ของคุณเอง หลังจากเอร็ดอร่อยกับเนื้อย่าง คุณสามารถทำขนมสายไหมและเครปเพื่อปิดท้ายมื้อของคุณ!

 

ด้วยประสบการณ์มากมายจากร้านอาหาร คุณอาจคิดว่ามันต้องแพงแน่ๆ แต่จริงๆแล้วราคาบุฟเฟ่ต์อาหารกลางวันเริ่มต้นเพียง 1,300¥ สำหรับ 90 นาที ซึ่งถือว่าถูกมากๆสำหรับบุฟเฟ่ต์! ราคาอาจแตกต่างกันไปตามสาขา แต่ก็ยังมีราคาถูกกว่าร้านบุฟเฟ่ต์อื่นๆ นอกจากนี้หาก 90 นาทีไม่เพียงพอสำหรับคุณ คุณสามารถจ่ายเงินเพิ่มเพื่อเพลิดเพลินกับมื้ออาหารของคุณเป็นเวลาถึง 2 ชั่วโมง!

 

Baikingu Kui Kui

อีกหนึ่งร้านที่เราอยากแนะนำคือ Baikingu Kui Kui ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอิเคะบุคุโระ ซึ่งใช้เวลาเดินจากสถานีไม่ถึง 5 นาทีก็จะเจอกับร้าน ร้านอาหารตั้งอยู่บนชั้น 6 ของอาคาร นอกเหนือจากที่ตั้งที่ดีเยี่ยมแล้ว Baikingu ยังมีเนื้อมากกว่า 10 ชนิดและเมนูอื่นๆ เช่นซูชิและราเม็งให้คุณได้ลอง

 

เนื้อสัตว์ยอดนิยมที่ Baikingu คือซี่โครงเนื้อและคอหมู ซึ่งหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำและนุ่มละลายในปาก จุดเด่นของร้านนี้คือคุณสามารถทำคุชิคัตสึหรืออาหารทอดเสียบไม้สไตล์ญี่ปุ่น ที่เคาน์เตอร์ของคุชิคัตสึ คุณสามารถเลือกประเภทของเนื้อสัตว์ นำเนื้อจุ่มลงในแป้ง คลุกเกล็ดขนมปัง และทอดในหม้อน้ำมันขนาดที่ถูกเตรียมไว้โดยร้าน คุณจะได้สนุกกับการลิ้มลองอาหารญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงอีกชนิด นอกจากนี้ยังมีเครื่องเคียงที่จัดเตรียมโดยร้านอาหารเช่นกิมจิและซุปมิโซะเพื่อตัดเลี่ยนอีกด้วย

 

แม้ว่าจะตั้งอยู่ในเมืองหลักของญี่ปุ่น Baikingu Kui Kui นั้นราคาถูกมากสำหรับบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง เริ่มต้นเพียง 1,400¥ สำหรับมื้อกลางวัน คุณสามารถเพลิดเพลินกับยากินิคุและของหวานได้ใน 60 นาที และด้วยการเพิ่มเพียง 200¥ คุณสามารถเพลิดเพลินกับบุฟเฟ่ต์ได้ถึง 90 นาที

 

Conclusion

หากคุณมีโอกาสมาเที่ยวญี่ปุ่น เราอยากให้คุณได้ลองไปร้านอาหารที่เราแนะนำ แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง! อย่าลืมถ่ายรูปอวดเพื่อนๆด้วยนะ!