คิดใหม่กับความเชื่อ “ไซตามะน่าเบื่อ” | Guidable - Your Guide to a Sustainable, Wellbeing-centred Life in Japan

คิดใหม่กับความเชื่อ “ไซตามะน่าเบื่อ”

By Guidable Writers Nov 22, 2018

This post is also available in: อังกฤษ

คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับความเชื่อ “ไซตามะน่าเบื่อ” ไหม?

 

 

ในบรรดาจังหวัดที่อยู่ใกล้กับโตเกียว มีจังหวัดนึงที่ชื่อเสียงไม่ค่อยดีนัก ซึ่งจังหวัดนั้นคือจังหวัดไซตามะนั่นเอง คานากาว่ามีโยโกฮาม่า คามากุระมีทะเล ชิซึโอกะมีคาบสมุทรอิซึและชาเขียว โทจิงิมีนิกโก้ แล้วไซตามะล่ะ?

จังหวัดไซตามะทั้งหมดถูกกล่าวว่าเป็น “ดาไซตามะ” ในบ้างครั้งโดย Tokyosites โดยการเติมคำแสลง ดาไซ (น่าเบื่อ ไม่เท่ ห่วย) ไปในชื่อ เช่นเดียวกัน มีมุขเก่าว่า อิเคะบุคุโระ ประตูแห่งโตเกียวสำหรับหลายคนที่มาจากไซตามะ ถูกยึดครองโดยดาไซตามะ

แล้วอะไรคือความจริงในความเชื่อดาไซตามะ? ส่วนหนึ่งมาจากความเข้าใจที่ว่าคนที่อาศัยอยู่ในไซตามะส่วนใหญ่เดินทางไปทำงานในโตเกียว ซึ่งทำให้ผู้คนนึกถึงไซตามะว่าเป็นเมืองบริวาร ท้องทุ่ง และมีแต่ร้านอาหารบ้านๆ แต่ความจริงแล้วในขณะที่จังหวัดนี้โด่งดังด้านธรรมชาติ ควรบันทึกไว้ด้วยว่าจังหวัดนี้มีประชากรมากถึง 7 ล้านคนและตามที่ถูกกล่าวโดย Japan Travel and Tourism Associationว่า ดูดดึงนักท่องเที่ยวมากกว่า 96,540,000 คนต่อปี 

การที่จะคลี่คลายเหตุผลในการสร้างคำ “ไม่เท่-ตามะ” อาจต้องใช้เวลานาน เพราะฉะนั้นแทนที่จะโฟกัสไปที่ข้อเสียเราควรโฟกัสไปที่เหตุผลว่าทำไมไซตามะถึงไม่ได้แย่อย่างที่ถูกกล่าวหา เนื่องจากที่ตั้งที่ใกล้กับโตเกียว ไซตามะเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การจัดทริปวันเดียวและมีหลากหลายสถานที่และสิ่งให้ทำ จากภูเขาไปจนถึงเมืองเก่าแก่ โรงต้มเบียร์ บอนไซ และศิลปะ

 

ทริปหนึ่งวันจากโตเกียว

 

 

หนึ่งในทริปยอดฮิต ซึ่งเคยถูกกล่าวในเว็บไซต์นี้แล้ว คือทริปคาวาโกเอะ ด้วยความที่อยู่ทางตอนเหนือของโตเกียวและไม่ไกลจากอิเคะบุคุโระ คาวาโกเอะคือสถานที่ยอดเยี่ยมหากคุณอยากสัมผัสกับเมืองสไลต์ ‘เอโดะ’ และด้วยซอยขายขนม (Kashiya Yokocho) ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อขนมลูกกวาด สถานที่นี้ยังเหมาะสำหรับคนที่ชอบของหวานอีกด้วย บริเวณนี้มีชื่อว่า “โคเอโดะ” และแม้ในโตเกียวคุณอาจพบกับเบียร์ COEDO ซึ่ง ใช่แล้ว มันถูกผลิตในคาวาโกเอะโดยมันหวานท้องถิ่นนั่นเอง

คาวาโกเอะคือสถานที่ที่คนไปเยือนเยอะที่สุดในไซตามะด้วยเหตุผลที่เห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม ห่างไปอีกนิดจะเป็นบริเวณภูเขาและทางทิศตะวันตกของจังหวัดคือ จิจิบุ จากอิเคะบุคุโระ คุณสามารถนั่ง Red Arrow Express ในราคา 1,480 เยนในหนึ่งเที่ยวและไปถึงภายใน 80 นาที (หรือทางที่ถูกกว่าคือนั่ง local train ไปเปลี่ยนที่ ฮันโนะ ซึ่งจะใช้เวลา 100 นาที)

เมืองจิจิบุเองมีชื่อเสียจาก Hitsujiyama Park ซึ่งในฤดูใบไม้ผลิจะถูกคลอบคลุมด้วยสีสันเมื่อ shibazakura สีชมพู (พิงค์มอส) บานสะพรั่ง เมืองนี้มีภูเขาชื่อ Mt. Buko ซึ่งเป็นภูเขาที่มีรูปร่างสะดุดตาเนื่องจากการขุดหินปูนบนยอดเขา คุณสามารถเดินไต่เขา Mt. Buko หรือนั่งรถไฟท้องถิ่นของ Seibi Chichibu และเข้าลึกไปในภูเขา

 

 

20 นาทีโดยรถไฟจากเมืองคือ เมืองนางะโทโระ ซึ่งมีทัวร์เรือบนแม่น้ำและเรือล่องแก่งในแม่น้ำอาระกาวะ ริมแม่น้ำคือหินก่อตัวที่ชื่อ อิวะดาตามิ ซึ่งถูกตั้งชื่อตามพรมตาตามิที่มันมีรูปร่างเหมือน

 

 

ในอีกด้านของเมืองจิจิบุคือศาลเจ้ามิซึมิเนะ ซึ่งตั้งอยู่ที่ภูเขามิซึมิเนะ 1,100 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มิซึมิเนะและศาลเจ้าจิจิบุซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมองและ โฮะโดะซัง จิจินะ ใน นะงะโทะโระ โด่งดังว่าเป็น “สถานที่แหล่งพลังงาน” ซึ่งในแนวคิดวัฒนธรรมประชานิยมคือสถานที่ที่มีจิตวิญญาณและสามารถชุบตัวผู้มาเยือนได้ และบนภูเขาสูง มิซึมิเนะเป็นหนึ่งในสถานที่ที่รวมพลังงานที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคคันโต สำนักงานการท่องเที่ยวของจังหวัดอธิบายสถานที่นี้ว่าคือ ‘สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ใกล้ท้องฟ้าที่เหล่าเทพประดิษฐานอยู่’

 

จากอเมริกาน่าสู่โคกูรยอ

 

สิ่งที่แปลกประหลาดของไซตามะคือ Johnson Town ใกล้ Iruma Air Base ซึ่งเป็นตึกอาคารที่เคยถูกใช้เป็นที่พักอาศัยของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในปัจจุบันอาคารสไตล์อเมริกันเหล่านี้ถูกเปลี่ยนให้เป็นคาเฟ่ ร้านค้าวินเทจ และร้านอาหาร สำหรับบรรยากาศสไตล์อเมริกาน่าในชนบทไซตามะ นั่งรถไฟสายเซบุอิเคะบุคุโระและลงที่สถานนี้อิรึมาชิ 

 

 

ในเมืองฮิดะกะ บนรถไฟสายเจอาร์คาวาโกเอะ (สถานนีโคมะงาวะ) คุณสามารถแวะเวียนไปที่ศาลเจ้าโคมะ คันจิของคำว่าโคมะ (高麗) สามารถถูกอ่านว่า โคกูรยอ ซึ่งเป็นหนึ่งในอนาจักรในยุคสามราชอาณาจักรเกาหลี (57 BC-668 AD) ในประวัติศาสตร์เกาหลี เนื่องจากสงครามและการบุกรุก ผู้คนจากอนาจักรโคกูรยอได้ย้ายไปที่ประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นสถานที่ที่พวกเขาอาศัยและกลายเป็นเมืองฮิดะกะในปัจจุบัน ป้ายที่ถูกตั้งอยู่ก่อนถึงศาลเจ้าถูกเขียนเป็นภาษาฮันกึล ภาษาญี่ปุ่น และภาษาอังกฤษและขอบเขตของศาลเจ้ามีรูปปั้นตั้งอยู่ตามจุดต่างๆซึ่งมาจากประวัติศาสตร์เกาหลี 

 

‘ไซตามะน่าเบื่อ’? ไม่จริง ไซตามะแค่มีจังหวะที่ช้ากว่า

 

เงียบกว่าใจกลางโตเกียว ไซตามะเหมือนจะเคลื่อนด้วยจังหวะที่ช้ากว่าและเป็นสถานที่หากอยากหนีจากความวุ่นวายของเมือง ไม่ว่าจะจัดทริปไปพิพิธพันธ์บอนไซในโอมิยะ หรือไปหุบเขาแม่น้ำในอิรึมะในเมืองฮันโนะเพื่อจัดบาร์บีคิวในหน้าร้อนจังหวัดนี้มีเสน่ห์มากมาย

แต่แล้ว ร้านสะดวกซื้อที่ใกล้ที่ทำงานในไซตามะของฉันที่สุดก็ปิดลง ทำให้การเดินไปร้านสะดวกซื้อใช้เวลาถึง 10 นาที เป็นเส้นทางที่ยาวและไม่สะดวกที่สุด แต่ใขณะนั้นฉันก็คิด อื้มแน่นอน ดาไซตามะ…

Rosie / UK